ผกก.สภ.เสนา ตรวจที่พบศพหญิงถูกมัดมือถลกเสื้อผ้าซ้ำ ด้านสามีเชื่อเป็นภรรยาจำเสื้อผ้าได้ ขณะพ่อขอรอผลดีเอ็นเอ ล่าสุดจับคนร้ายได้ที่อ่างทอง รับคุยผ่านโปรแกรมแชตก่อนนัดเจอ เห็นทรัพย์สินเยอะตัดสินใจฆ่าก่อนนำศพมาทิ้ง
เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 60 พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เกตุอร่าม ผกก.สภ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังชุดสืบสวนออกไปตรวจที่เกิดเหตุพบศพผู้หญิงอายุประมาณ 40-45 ปี ย้อมผมสีทองถูกถลกเสื้อผ้า ข้อมือถูกพันด้วยผ้าเทป ขึ้นอืดในพงหญ้าข้างทางและต่อมา นายรชพล เต๊กอวยพร อายุ 38 ปี สามี ยืนยันว่าเป็นภรรยาของตนเอง ชื่อ นางวราภรณ์ วีระสัย อายุ 38 ปี ชาว อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากจำเสื้อผ้าที่สวมใส่หลังหายออกจากบ้านเมื่อวันที่ 21 ม.ค. ได้ โดยออกไปพร้อมรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 110 สีดำคาดแดง ทะเบียน 958 กรุงเทพมหานคร และสวมใส่เครื่องประดับติดตัว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งประเด็นการเสียชีวิตมาจากเรื่องฆ่าชิงทรัพย์ และเรื่องชู้สาวทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม และแบ่งกำลังออกติดตามกล้องวงจรปิดตามเส้นทางตั้งแต่บ้านผู้ตาย อ.มหาราช มายังจุดเกิดเหตุ และสืบสวนสอบสวนติดตามหารถของผู้ตาย เพื่อขยายผลสืบหาคนร้าย โดยไม่ทิ้งเรื่องชิงทรัพย์และชู้สาว แต่ขอทำงานสักระยะคาดว่าจะได้ตัวฆาตกรแน่นอน
ด้าน ร.ต.อ.อดิศร พันธุมาศ รอง สว.สส.สภ.เสนา เจ้าของคดี กล่าวว่า สามีผู้ตายเป็นลูกจ้างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.มหาราช ให้การว่าจำเสื้อผ้าได้ จึงสันนิษฐานว่าเป็นภรรยา อยู่ด้วยกันมาหลายสิบปี มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน อายุ 5 ขวบ ส่วน นายระเบียบ วีระสัย อายุ 67 ปี พ่อผู้ตาย บอกว่า สภาพศพขึ้นอืดแถมโดนสัตว์กัดแทะจำหน้าลูกไม่ได้ คงไม่ใช่ลูกสาว และไม่ปักใจเชื่อจนกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรวจดีเอ็นเอว่าตรงกับตน และช่วงบ่ายเดินทางไป รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี เพื่อนำศพไปตรวจดีเอ็นเอที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ศูนย์ราชการฯ คาดว่าจะรู้ผลภายใน 40-60 วัน สำหรับผลการผ่าพิสูจน์ศพว่าถูกข่มขืนหรือไม่นั้น ไม่สามารถตรวจได้ ต้องนำมวลกระดูกไปตรวจว่ามีผลกระทบใดๆ หรือไม่ คาดว่าใช้เวลา 2 เดือน ดังนั้น ญาติจะรับศพไปบำเพ็ญกุศลไม่ได้ต้องรอจนกว่าผลดีเอ็นเอจะออกมาระบุแน่ชัดว่าเป็นใคร
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสนา สืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา สืบสวนภาค 1 ติดตามจับกุมตัว นายปัญญา จันทร์เปรม อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 หมู่ 1 ต.นรสิงห์ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ได้ที่ จ.อ่างทอง ขณะหลบหนีไปกบดาน พร้อมนำตัวไว้ที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่งเพื่อสอบสวน เบื้องต้น นายปัญญา ให้การรับสารภาพว่ารู้จักกับผู้ตายผ่านโปรแกรมแชต พูดคุยกับผู้ตายมาสักพักก่อนจะนัดเจอที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง และเห็นผู้ตายมีทรัพย์สินติดตัวมาจำนวนมาก จึงตัดสินใจลงมือฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ โดยใช้หมอนกดทับใบหน้าจนขาดอากาศหายใจ ก่อนปลดทรัพย์และนำศพใส่รถยนต์นิสสัน เซนทรา สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กฉ 7211 พระนครศรีอยุธยา นำศพไปทิ้งจุดที่พบ ส่วนรถจักรยานยนต์ของผู้ตายได้ถอดแยกชิ้นส่วนนำไปทิ้งแม่น้ำในพื้นที่ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง แล้วหลบหนีกลับมาที่ จ.อ่างทอง จนตำรวจติดตามมาจับกุมตัวได้.
Cr : http://www.siamvariety.com/view-14997.html