จากกรณีตำรวจปราบปรามยาเสพติดเมื่อวันนี้ 2 ก.พ. 60 ร่วมกับ ป.ป.ส. และ ปปง. เปิดปฏิบัติการ “ชัยยะ สยบไพรี 60/2” บุกเข้าตรวจค้นและอายัดทรัพย์สินในพื้นที่เป้าหมายเครือข่ายท้าวไซซะนะ แก้วพิมพา นักค้ายาเสพติดที่ถูกจับกุมไปแล้ว โดย 1 ในเป้าหมายที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด นำกำลังพร้อมหมายศาลเข้าตรวจค้น คือ ร้านแอเรีย 51 ภายในซอยอินทามาระ 51 ซึ่งให้บริการจำหน่ายอุปกรณ์ และตกแต่งรถจักยานยนต์บิ๊กไบค์ ของนายอัครกิตต์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง ผู้ต้องสงสัย สามีนางเอกสาว แพท ณปภา ตันตระกูล
และเมื่อไม่นานมานี้ วันที่ 3 ก.พ. หนุ่ม “เบนซ์ เรซซิ่ง” หรือ “นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช” เดินทางเข้ามาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตอนเวลา 15. 00 น. ทั้งนี้นายอัครกิตติ์ มาในนามผู้ต้องสงสัย ยังไม่ได้เป็นผู้ต้องหา
บรรยากาศที่ สำนักงานตำรวจปราบปรามยาเสพติด เวลา 15.35 นาที พบว่า “นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช” มา พร้อมกับสีหน้าเรียบเฉย
และล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ ทางเพจ Drama-addict ได้ออกมาโพสต์ข่อความเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวผ่านทางเพจเฟสบุ๊ค โดยระบุข้อความไว้ว่า….
ขณะที่ข้อมูลการสืบสวนของตำรวจ พบว่า รถแลมโบกินี่ เป็นทรัพย์สินของนายณัฐพล แต่ให้นายอัครกิตติ์เป็นผู้ครอบครองแทน นอกเหนือจากเงิน 6 ล้านบาทแล้ว ตั้งแต่นายอัครกิตติ์ ซื้อรถแลมโบกินี่ นายณัฐพล ยังโอนเงินให้นายอัครกิตติ์อีกเดือนละ 300,000 บาท สำหรับผ่อนรถ โดยรถคันนี้ดังกล่าว จะอยู่กับนายอัครกิตติ์ตลอดเวลา เว้นแต่นายไซซะนะ มาเที่ยวเมืองไทย นายณัฐพล ก็จะมาเอารถไปให้นายไซซะนะใช้งาน
หากข้อมูลสืบสวนของตำรวจปราบปรามยาเสพติดเป็นความจริง เท่ากับว่านายอัครกิตติ์ จะต้องตกเป็นผู้ต้องหาทันที ตามความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี และต้องถูกยึดทรัพย์ด้วย ทั้งนี้ การทลายเครือข่ายยาเสพติดของนายไซซะนะ ยังคงเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีทีท่าจะสิ้นสุด เนื่องจากข้อมูลของตำรวจปราบปรามยาเสพติด พบว่า ยังมีบุคคลในแวดวงชั้นสูง และดารานักแสดง เกี่ยวข้องอีกหลายคน
ด้าน พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (รอง ผบช.ปส.) ระบุว่า ได้เข้าตรวจสอบรถของ เบนซ์ เรซซิ่ง เป็นรถยนต์ยี่ห้อ BMW รุ่น 320 d ทะเบียน 5 กท 411 กรุงเทพมหานคร และรถยนต์ยี่ห้อฟอร์จูนเนอร์ TRD สปอตติโอ ทะเบียน 3 กล 8403 กรุงเทพมหานคร ที่ใช้อยู่ประจำ จากนั้นได้เข้าไปตรวจสอบภายในร้าน AREA 51 เป็นร้านจำหน่ายอุปกรณ์ และของตกแต่งรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการยึดของกลางไว้ทั้งหมด เพื่อนำไปตรวจสอบว่าเกี่ยวพันกับการฟอกเงินของเครือข่ายยาเสพติดหรือไม่ต่อไป ทั้งนี้ กระบวนการดังกล่าวอยู่ระหว่างการสอบสวน และเบนซ์ ยังไม่ได้เป็นผู้ต้องหาแต่อย่างใด โดยพบว่า กระบวนการสอบสวนนั้น จะตรวจสอบเอกสารและที่มาของทรัพย์สิน โดยเฉพาะรถลัมโบกินี ซึ่งหลักฐานว่า อาจจะเป็นรถที่อยู่ในเครือข่ายของนายไซซะนะ พิมพา และยังพบหลักฐานการสวมทะเบียน จึงต้องมีการชี้แจงอย่างละเอียด โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ให้สัมภาษณ์ว่า ในฐานะภรรยา หากพบว่ามีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้อง นางเอกสาวก็ต้องร่วมรับผิดด้วย“ขณะที่ข้อมูลการสืบสวนของตำรวจ พบว่า รถลัมโบกินี่ เป็นทรัพย์สินของนายณัฐพล แต่ให้นายอัครกิตติ์เป็นผู้ครอบครองแทน นอกเหนือจากเงิน 6 ล้านบาทแล้ว ตั้งแต่นายอัครกิตติ์ ซื้อรถลัมโบกินี่ นายณัฐพล ยังโอนเงินให้นายอัครกิตติ์อีกเดือนละ 300,000 บาท สำหรับผ่อนรถ โดยรถคันนี้ดังกล่าว จะอยู่กับนายอัครกิตติ์ตลอดเวลา เว้นแต่นายไซซะนะ มาเที่ยวเมืองไทย นายณัฐพล ก็จะมาเอารถไปให้นายไซซะนะใช้งาน”
ทั้งนี้นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง ชี้แจงสื่อมวลชน หลังเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด หรือ บช.ปส. เป็นเวลานานกว่า 6 ชั่วโมง หลังตกเป็นข่าวพัวพันกับการฟอกเงิน ในเครือข่ายนายไซซะนะ แก้วพิมพา เจ้าพ่อค้ายาเสพติดชาวลาว เป็นเหตุให้ถูกบุกค้นบ้านพักในซอยอินทามระ 51 และนำไปสู่การยึดรถยนต์แลมโบกินี่ ทะเบียน กจ-51 กรุงเทพมหานคร และรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์อีก 2 คัน ในปฎิบัติการ ‘ชัยยะสยบไพรี 60/2’ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยนายอัครกิตติ์ ให้การถึงที่มาของรถแลมโบกินีว่า ได้ยืมเงินสดจากนายณัฐพล นาคคำ หรือ บอย บิ๊กไบค์ หนึ่งในสมาชิกเครือข่ายนายไซซะนะ จำนวน 6 ล้านบาท เพื่อนำไปดาวน์รถ และคืนเงินจำนวนนี้ไปแล้วบางส่วน พร้อมยอมรับว่า สนิทกับนายณัฐพล เพราะชอบเรื่องความเร็ว และการแต่งรถเช่นกัน ยืนยันไม่รู้ว่า นายณัฐพล เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
Cr : http://www.siamdrama.com/view-4867.html