ผู้สื่อข่าวยักษ์สา เห็นหน้าลูกวัวนำ้ตาเขาไหลอาบหน้า มันเป็นภาพที่สะเทือนใจ หดหู่ใจ เศร้าใจ และสงสารเป็นที่สุด.. ขออธิษฐาน ให้เขาสองแม่ลูก ไปเกิดใหม่อยู่ในพบภูติชาติที่ดี หมดเวรกรรมกันในชาตินี้ และชาติต่อๆ ไปเทอญ... สาธุ. สาธุ..สาธุ..นับได้ว่าการฆ่าสัตว์เพื่อเลี้ยงผู้คนที่มาร่วมงาน ที่เรียกกันว่างานบุญทั้งหลายนั้นเป็นสิ่งที่ทำตาม ๆกันมาในชนบท โดยอาจจะขาดความรู้และความเข้าใจตั้งแต่ต้น เลยทำสืบทอดต่อ ๆกันมาเป็นเวลายาวนานจนกลายเป็นประเพณี เมื่อลูกชายจะบวชทางครอบครัวมักจะจัดงานเลี้ยงใหญ่โตเพื่อให้เพื่อนบ้าน ญาติสนิทมิตรสหายได้รับรู้ เลี้ยงสังสรรค์พบปะกัน เรียกว่า มีการล้มวัว ล้มหมูกันเลยทีเดียว และนี่เป็นเรื่องจริงที่ได้รับรู้แล้วกลับสงสารวัวและหมูเหล่านั้นจนไม่กล้าล้มวัวล้มหมูอีกเลยก็อาจะเป็นได้
โดยบ้านหลังหนึ่งได้ล้มวัวแม่ลูกอ่อนตัวหนึ่ง เพื่อจัดงานบวชปรากฎว่าพอฆ่าแม่วัวเสร็จเรียบร้อยแล้วเอาโครงกระดูกไปทิ้ง ลูกวัวก็เดินมาร้องไห้อยู่ที่โครงกระดูกแม่ จนกระทั่งถึงพิธีการนำนาคเดินรอบโบสถ์ก่อน 3 รอบ ลูกวัวตัวนั้นก็เดินมาร้องขัดขวางไม่ให้เข้าโบสถ์ พ่อของนาคสั่งให้ลูกน้องจับลูกวัวไปขังเอาไว้ หลังจากนั้นลูกวัวก็หนีออกมาร้อง มอ มอ ขัดขวางไม่ให้เข้าโบสถ์อีกครั้ง ต่อมาได้จับลูกวัวไปมัดไว้ก็ยังหนีออกมาร้องอีก พ่อของนาคทนไม่ไหวเลยยิงลูกวัวทิ้งซะเลย เลยกลายเป็นว่าทั้งแม่วัวและลูกวัวถูกฆ่าหมด
นี้เป็นข้อคิดว่าการทำบุญบนความทุกข์ ความตายและความเสียหายของผู้อื่นนั้นมันจะได้บุญจริงหรือ ?ถ้าหักลบกลบกันแล้วบุญจะท่วมบาปหรือบาปจะท่วมบุณ อยากให้ลองคิเดู ชาวพุทธเราการทำบุญนั้น ควรเป็นบุญล้วน ๆ ปราศจากการเบียดเบียนและล้างผลาญชีวิตผู้อื่น ไม่ผิดศีลผิดธรรมตามพุทโธวาท ที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทานไว้
ให้ทำแต่ความดี ละเว้นความชั่วและทำจิตให้ผ่องใส
Cr : http://www.siamdrama.com/view-4486.html