Loading...

ชอบใช้ ‘ที่ปั่นหู คัตตอนบัต’ ควรระวัง! สาวโพสต์เตือนภัย ใช้เป็นประจำ จนอาการสาหัส เข้าห้องผ่าตัดฉุกเฉิน!!


เชื่อว่าสิ่งที่หลายคนชอบคือการใช้คัตตอนบัต หรือที่ปั่นหู ทำความสะอาดใบหูทั้งข้างนอกและข้างใน โดยเฉพาะด้านใน เพราะมันทำให้เรารู้สึกฟินจนฉุดไม่อยู่ ฟินแบบอธิบายไม่ถูก! แต่ความฟินเกินไปก็ทำให้เกิดอันตรายได้เช่นกัน โดยผู้ใช้สมาชิกนาม Kittikanda โพสต์เตือนภัยในเว็บไซต์ pantip ว่า เธอมักจะใช้คัตตอนบัตเป็นประจำ ทุกวัน เนื่องจากความฟิน แต่มันทำให้เธอทรมานเจียนตาย!

ขอเล่าเหตุการณ์ที่เกิดเมื่อปีที่แล้วถึงอาการป่วยในขณะที่อยุ่ในอเมริกาไกลบ้านไกลเมือง เพื่อเป็นอุทธาหรณ์แก่คนที่ชอบใช้ cotton bud /Q-tip นะคะ

เราเป็นคนที่ชอบแคะหูมากกกกกก แบบว่ามันฟิน ก็ใช้เป็นประจำ จนกระทั่งวันนึงไปทำงาน ก็รู้สึกเจ็บหน้าซีกขวาเหมือนโดนตบหน้าอยู่ตลอดเวลา

อาการก็ไม่ดีขึ้นจนกระทั่งอีกวันหนึ่ง คือตอนพูดคุยกับลูกค้านี่แทบจะร้องไห้… ตกดึกคืนนั้นราวๆ เที่ยงคืนก็ปวดไปทั้งหัวเลยค่ะ… ทีนี้ก็โทรไปเช็คประกัน

คุยก็แบบทรมานจนประกันบอกว่าเดี๋ยวจะขอโทรมาเช็คอาการพรุ่งนี้เพราะเสียงเราไม่ดีเลย สุดท้ายก็ไปห้องฉุกเฉิน..

หมอพยายามส่องกล้องแต่ก็บอกเราว่าทำไม่ได้เพราะหูมันบวมจนมองไม่เห็นว่าข้างในเป็นอะไร

สุดท้ายหมอว่าเป็น swimmer ear ที่นู่นยาเราต้องไปหาซื้อเอง ต้องเดินไปซื้อยาหยอดหู รวมๆ ก็สี่ชั่วโมงในห้องฉุกเฉินอันทรมานและก็ร้านขายยาไม่เปิดก็ต้องทนทรมานถึงเช้า

ยังค่ะมันยังไม่จบแค่นั้น…

พอได้ยาก็หยอดแต่ก็ไม่ดีขึ้น ยังปวดเหมือนเดิมทำงานลำบากมาก สุดท้ายไข้ขึ้นเลยค่ะ โทรหาแฟนว่าไม่ไหวแล้ว ช่วยหน่อย เขามารับค่ะ…

พอเขากอดเรา เขาว่าเราตัวร้อนจัดจนเขาตกใจ (หลังจากฟาดไทลินอลไปสองเม็ดไข้ลดมาหนึ่งองศาก่อนที่จะน็อคเข้าห้องฉุกเฉินอีกรอบ)

เราไปหาหมอคลินิกใกล้บ้านที่เขารู้จัก หมอก็ว่าหูข้างในบวมจนส่องกล้องไม่ได้อยู่ แต่จะให้หยอดยาที่มีสเตอรอยด์แล้วจะให้ยาแก้อักเสบมากินละกัน

คืนนั้นเลยค่ะ… ทรมานเหมือนคนกระทีบหัวจนร้องไห้ เราตีแฟนให้ช่วยทั้งคืนรวมหน้าจะสิบเจ็ดรอบได้… เขาไปเอายาจากญาติที่ตัดขาแล้วต้องกินยาแก้ปวด

แต่เรากินก็ไม่ช่วยอะไรเลย… สุดท้ายรุ่งสางแฟนตื่นมาดู โอ้โห… มาเต็ม ทั้งหนองและเลือดไหลออกทั้งสองกกหูค่ะ… ถึงขนาดแฟนต้องเอาสลิ้งมาดูดกันเลยทีเดียว

อันนี้ตอนเลือดแห้งบ้างไหลลงเบาะบ้างพยายามเช็ดเท่าที่ทำได้ เจ็บจริง ปวดจริง ไม่ใช้ตัวแสดงแทนจ้า



แต่พอวันถัดมาอาการดีขึ้นมาก ไข้ลด อาจจะเป็นเพราะหนองอะไรต่าง ๆ ได้ออกจากร่างไปแล้ว

เรากลับมาทำงานก็สลับกันไป เดี๋ยวเลือดออกมาถึงคาง เดี๋ยวก็ปวดจนพูดไม่ออก… พอไม่ไหวก็กลับบ้าน

แต่!!! พอยาแก้อักเสบหมดเท่านั้น… คราวนี้มันลามลงคอจ้า อย่างกับเป็นไข้หวัดคือเจ็บจนกินเสต็ปซิลสองแผงหมดใน สี่ชั่วโมง

พร้อมกับฉีดยาพ่นคอเพื่อให้มันชาทุกครั้งที่คุยกับลูกค้าเสร็จ (อยากจะบอกว่าลูกค้าคนนึงคุยนานมาก จนเราน้ำตาคลอเลย)

สุดท้ายเหมือนเป็นไข้หวัดลงคอ ก็งง ๆ ค่ะ… แฟนก็เลยโทรไปหาหมอที่คลินิกเล่าอาการให้ฟัง…​ที่ไหนได้การที่เลือดออกสองกกหูนี่มันไม่ธรรมดา

มันหมายถึงแก้วหูชั้นในอักเสบและหมอก็ไม่คิดว่าเราจะเป็นขนาดนี้ บอกอีกว่าอย่าใช้อย่าหยอดหูสเตอร์รอยนะ เพราะมันอาจจะทำให้มีปัญหาได้

โอววววว คุณหมอ…. กลัวมากค่ะ… สุดท้ายกินอะไรไม่ได้ แม้แต่น้ำก็กลืนลำบาก…​ช่วงนี้สื่อสารโดยการเขียนค่ะ


เขานั้นก็เลยส่งตัวไปที่คลินิกเฉพาะทางคอหูจมูก(เอ๊ะ เรียกถูกไหม)

สุดท้ายหมอบอกว่าต้องผ่าตัดจ้า คุณหมอคนนี้เก่งมากดูไม่ถึงสามนาที… เขาก็พาไปขึ้นเขียงแบบเราไม่รู้เนื้อรู้ตัว…

คือแบบเขาต้องใช้เข็มยาวมากแทงเข้าไปในหูเพื่อฉีดยาชา คือตอนนั้นกัดปากจนเลือดไหลพรากเลยค่ะ… เสร็จแล้วก็ผ่าเช็ดแผลทำความสะอาดไม่ถึงสิบนาที แต่ทรมานที่สุดในชีวิต

ไม่น่าเชื่อ… หลังจากนั้นไม่ถึงวันกินข้าวได้เลย แล้วก็หายเป็นปลิดทิ้ง

คือหมอเขาก็ใช้ศัพท์การแพทย์ แม้กระทั่งแฟนเรายังไม่ค่อยแน่ใจ แต่มันเกิดจากการอักเสบและติดเชื้อตรงแก้วหูชั้นในสุด…

ก็เลยคิดว่าอยากจะให้เพื่อน ๆ ระวังการใช้ cotton bud /Q-tip ให้มาก ๆ เพราะมันไม่แหลมคมเหมือนไม้แคะหูแต่ก็อันตรายไม่ใช่ย่อยถ้าใช้ไม่เหมาะสมค่ะ

ฝากด้วยนะคะ

Cr : http://btsstation.com/78820
Previous
Next Post »